กฎหมาย คือข้อบังคับ หรือกฎเกณฑ์ที่รัฐกำหนดขึ้น หากไม่ปฏิบัติตามย่อมมีความผิดและถูกลงโทษ
ที่มาของกฎหมาย มาจากจารีตประเพณี กับ มาจากตัวบทกฎหมาย เป็นลายลักษณ์อักษร ตราขึ้นโดยผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐนั้น
ระบบกฎหมาย มี 2 ระบบ
1.ระบบจารีตประเพณี คือ กฎหมายที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร อาศัยจารีตประเพณีหรือคำพิพากษาศาล
โดยใช้เหตุผลของนักกฎหมายเป็นหลัก เช่น ปท.อังกฤษ และปท.ในเครือจักรภพ
2.ระบบลายลักษณ์อักษร มีประวัติมาจากกฎหมายโรมัน นิยมใช้ในปท.ต่างๆ
ลักษณะของกฎหมาย
1.เป็นกฎ หรือข้อบังคับที่ใช้ได้ทั่วไปในรัฐหรือปท.นั้น
2.ต้องใช้บังคับตลอดไปจนกว่ามีกฎหมายอื่นมายกเลิก
3.ต้องตราขึ้นโดยผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐ
4.ต้องมีสภาพบังคับ
5.ต้องไม่มีการบังคับย้อนหลัง
ความสำคัญของกฎหมาย
1.ให้สังคมเป็นระเบียบ
2.ควบคุมพฤติกรรมของคนในสังคม
3.เกิดความสงบเรียบร้อย
ประเภทของกฎหมาย แบ่งได้ 3 ประเภท
1.กฎหมายเอกชน บัญญัติถึงความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนกับเอกชนในฐานะเท่าเทียบกัน เช่น ประมวลกฎหมายที่ดิน
2.กฎหมายมหาชน คือ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐหรือหน่วยงานของรัฐ กับเอกชน ได้แก่ กฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายอาญาฯลฯ
3.กฎหมายระหว่างปท. ถือว่ารัฐมีฐานะเป็นนิติบุคคล แบ่งเป็น 3 แผนก คือ
แผนกคดีเมือง คดีบุคคล คดีอาญา
พระราชบัญญัติคือ กฎหมายที่กษัตริย์ตราขึ้นโดยคำแนะนำและยิมยอมของรัฐสภา
กระบวนการจัดทำพระราชบัญญัติ
1.ผู้เสนอ ได้แก่ คณะรัฐมนตรี หรือส.ส.(อย่างน้อย20คน) ประชาชน 50,000 คน
2.ผู้พิจารณาได้แก่ สภาผู้แทนราษฎร แบ่งเป็น 3 วาระคือ
วาระที่1 เรียกขั้นรับหลักการ วาระที่ 2 เรียก ขั้นแปรญัตติ วาระที่ 3 เรียก ขั้นลงมติ
3.วุฒิสภา พิจารณา 3 วาระเช่นเดียวกัน
ผู้ตราได้แก่พระมหากษัตริย์ มีผลบังคับใช้เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
ประมวลกฎหมาย มีศักดิ์เท่ากับพระราชบัญญัติ ตราโดยฝ่ายนิติบัญญัติ ต่างจากพระราชบัญญัติที่
ประมวลกฎหมายเป็นการรวบรวมบัญญัติของกฎหมายในเรื่องใหญ่ๆมารวมไว้ที่เดียวกัน
พระราชกำหนด คือกฎหมายที่กษัตริย์ทรงตราขึ้นตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี
การออกพระราชกำหนดถือว่าเป็นกฎหมายชั่วคราว ออกในกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน
อันถือว่าเป็นเหตุฉุกเฉินในอันที่จะรักษาความปลอดภัยสาธารณะสุขหรือป้องปัดภัยพิบัติ
กระบวนการจัดทำ
1.ผู้เสนอ คือ รัฐมนตรีที่จะรักษาการตามพระราชกำหนด
2.ผู้พิจารณาคือ คณะรัฐมนตรี
3.ผู้ตรา คือ กษัตริย์
4.มีผลบังคับใช้เมื่อประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
พระราชกฤษฎีกา คือกฎหมายที่พระมหากษัตริย์ตราขึ้นโดยคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี มี 2 ประเภท
1.ออกโดยอาศัยอำนาจแห่งกฎหมาย
2.กษัตริย์ใช้อำนาจโดยไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านของข้าราชการ
กระบวนการจัดทำ
1.ผู้เสนอ คือคณะรัฐมนตรีจะรักษาการตามพ.ร.บ. พ.ร.ก.ที่แกโดยพระราชกฤษฎีกา
2.ผู้พิจารณา คือ คณะรัฐมนตรี
3.ผู้ตรา คือ กษัตริย์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น